วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2558

รีวิว Aqueen Lavender Hotel S I N G A P O R E (6-8 June 2558)

รีวิว โรงแรม Aqueen Lavender ที่ สิงคโปร์
                เนื่องจากเราจองตั๋วไปกลับ ดอนเมือง-สิงคโปร์ ได้ถูกมากในราคา 2,854 บาทต่อคน ทริปเที่ยวสิงคโปร์จึงเกิดขึ้น เมื่อได้ตั๋วแล้วก็เริ่มหาโรงแรมไปเรื่อยๆ จนมาได้โรงแรม Aqueen Lavender แถวถนน Lavender ในย่าน Kallang




เราจองเข้าพักวันที่ 6-8 มิถุนายน 2558 ราคา 2,555.92 บาท ต่อห้องต่อคืน รวมอาหารเช้า
เรามี 4 คน จึงจอง 2 ห้อง 2 คืน ราคาอยู่ที่ 10,223.69 บาท (ตกคนละ 1,277.96 บาทต่อ 1 คน ต่อ 1 คืน



วิธีเดินจากสนามบินไปโรงแรมก็ไม่ยากเลยค่ะ ลงจากสนามบินมาที่ Terminal 2 ผ่านตม. แล้วเดินตามป้าย Train to city เลยค่ะ



เราซื้อ Singapore Tourist Pass สำหรับ 3 วัน ราคา 30SGD (10 SGD ได้คืนตอนเอาบัตรมาคืนภายใน 5 วันหลังจากซื้อบัตร)

นั่งรถไฟจากสนามบิน changI มาเปลี่ยนสายเข้าเมือง  (Joo Koon) นั่งมาลงที่สถานี Lavender


ถึงสถานี Lavender ลงจากรถไฟเดินขึ้นบันไดมาจนเจอทางแยก เลี้ยวซ้ายเดินออกมาจากสถานี ขวามือจะเจอป้ายรถเมล์ค่ะ
ขึ้นรถเมล์สาย 133 หรือ 145 นั่งมาลงที่โรงแรมมาลงสถานีหมายเลข 3 หรือ 4 ก็ได้ค่ะ ระยะทางเท่ากัน ถ้าลงสถานีหมายเลข 3 ก็เดินขึ้นไปอีกนิดหน่อยก็ถึงโรงแรม ถ้าลงสถานีหมายเลข 4 ก็เดินย้อนลงมาค่ะ

ถึงโรงแรมแล้ว เย้! (จากภาพลงจากสถานีที่ 3 นะคะ)



กด Press เพื่อให้ประตูเปิด

เดินเข้ามาก็จะเจอ Front Desk มาถึงประมาณเกือบเที่ยงกว่าๆ เช็คอินได้เลย เราจ่ายเงินค่าห้องมาทั้งหมดแล้ว ทางรีเซฟชั่นจึงขอเงินมัดจำไว้ 200 SGD ค่ะ (ใครใช้เงินสดก็ได้คืนตอนเช็คเอ้าท์ ถ้าใช้บัตรเครดิตเขาจะบล็อกวงเงินไว้และจะปลดบล็อกให้ตอนเช็คเอ้าท์ใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์)
สลิปจะขึ้นเป็น card verification นะคะ ตามรูปเลย ถ้าขึ้นแบบนี้แสดงว่าบล็อกวงเงินไว้แต่ยังไม่ได้ชาร์จ






เราได้ห้อง connecting room (1 ห้องเตียงใหญ่ + 1 ห้องเตียงคู่) ตอนแรกเราขอไปเตียงคู่ทั้ง 2 ห้อง แต่บังเอิญว่าถ้าเตียงคู่ 2 ห้องมันไม่มีแบบ connecting room ค่ะ  ได้รหัส wifi ซึ่งรหัสใช้กี่เครื่องก็ได้ (เริดมาก)
**ขัดใจรีเซฟชั่นนิดนึงตอนปรึกษากันว่าเอาห้องแบบไหนดี นางออกแนวเร่งว่าจะเอาห้องแบบไหน เอ่อ ลูกค้าคนอื่นก็ไม่มีขอปรึกษากันก่อนไม่ได้เหรอ จะเร่งไปไหนค้าคู๊ณณณ (นอกนั้นโอเคค่ะ พนักงานน่ารัก ให้ควาช่วยเหลือดี)

เช็คอินเสร็จแล้วขึ้นลิฟท์ไปกันเลย ลิฟท์ที่นี่ต้องใช้คีย์การ์ดไปแตะแล้วกดชั้นห้องพักเราค่ะ ห้องของเราอยู่ชั้น 3
ได้ห้อง 308 และ 309 (ลืมถ่ายคีย์การ์ดมา)

เอาคีย์การ์แตะให้ขึ้นไปเหลืองก็เปิดห้องได้แล้ว


เปิดเข้ามาจะเจอแผงควบคุม ใส่คีย์การ์ดปุ๊บ ไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ติดปั๊บเลย



ห้องเตียงคู่ของเรา อีกห้องนึงเป็นเตียงเดี่ยว (ไม่ได้ถ่ายรูปมา หรือก็คือถ่ายไม่ทัน มาถึงก็จับจองเตียงกันเรียบร้อย 555)




จอโทรทัศน์ ตู้เย็น และกระจกเต็มตัว(ลืมรูปมาจาก tripadvisor นะคะ พอดีลืมถ่ายมา)

ได้น้ำฟรีวันละ 2 ขวดต่อห้อง มีชา กาแฟ กาน้ำร้อนให้ด้วย

เปิดลิ้นชักมาเป็นเจอไดร์เป่าผม


ตู้เย็นว่างเปล่า

ห้อง connecting room เปิดประตูหากันได้


ภายในห้องน้ำตอนเห็นในรีวิวครั้งแรกเห็นเป็นกระจกรอบด้านเลย ทำใจว่าต้องอาบน้ำแบบนั้นแต่ห้องที่เราได้กลับเป็นห้องน้ำแบบทึบมีแค่ประตูห้องน้ำแค่นั้นที่เป็นกระจกแบบมัว อ้อห้องน้ำล็อกไม่ได้นะคะ ถ้าจะทำธุระส่วนตัวก็บอกเพื่อนด้วยไม่งั้นเปิดมาจ๊ะเอ๋กันเลยทีเดียว ฝักบัวปรับน้ำร้อนน้ำเย็นได้อยู่หลังม่าน สบู่เหลวกับแชมพูสระผมเป็นตัวเดียวกัน ลองใช้สระผมแล้วผมกระด้างเลยทีเดียว (ลืมถ่ายรูปมาอีกแล้ว) โรงแรมมีผ้าเช็ดตัวให้ 2 ผืน สบู่ล้างมือ แก้วสองใบ แปรงสีฟัน+ยาสีฟัน 2 ชุด มีดโกนหนวด 1 ชุดค่ะ



ว่าด้วยเรื่องปลั๊กไฟเป็นแบบนี้ ขวามือสุดใช้ปลั๊กไฟแบบบ้านเราได้ อันถัดมาต้องหา Adapter แปลงไฟมาใช้ค่ะ

เตียงฝั่งที่ติดหน้าต่างมีปลั๊กไฟ แต่เตียงอีกฝั่งนึงไม่มีนะคะ

ห้องอาหารอยู่ชั้น 1 ออกจากลิฟขวามือก็เป็นห้องอาหารเลยค่ะ

บรรยากาศข้างนอก




ห้องเราจองแบบรวมอาหารเช้ามาด้วยจึงมีรีวิวมาให้ดูด้วย  เนื่องจากส่วนมากแขกที่มาพักเป็นอินเดียซะส่วนใหญ่ทางโรงแรมจึงทำอาหารแบบอินเดียซะเยอะแต่ไม่ถูกปากเรากินได้นิดหน่อย อ้อ อาหารเป็นบุฟเฟต์นะคะ
อาหารเช้าวันแรก









เครื่องปิ้งขนมปัง เอาขนมปังวางลงตะแกง ตะแกงก็จะค่อยๆ เลื่อนจนขนมปังตกลงมาข้างล่าง

เครื่องทำกาแฟแค่กดปุ่มตามป้ายเลยค่ะ

มีชา นม น้ำแอปเปิ้ล น้ำเปล่า ให้ด้วย






อาหารวันที่ 2









ได้ไข่กวน ฮอตดอก มากิน ส่วนมักโรนีตักมาแต่กินไม่ได้ ไม่อร่อยเลยมันมีรสเครื่องเทศอินเดียด้วย

ร้านอาหารและเซเว่นอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมเท่าไหร่ดูจากแผนที่ที่เราลงไว้ให้ข้างบนนะคะ (เพิ่งมารู้ว่ามีก็คืนวันที่ 2 ละ)
เซเว่นอยู่แถวป้ายรถเมล์ตรงนี้ใหญ่พอสมควรมีของขายเยอะเลยค่ะ









เดินเลยเซเว่นไปหน่อยจะเจอร้าน Lavender Food Hub




เดินไปอีกนิดก็จะเจอร้านอาหารอีก 2 ร้านค่ะ



สรุปความพึงพอใจ
ความคุ้มค่า            อยู่ในระดับโอเคเลยค่ะเรามา 4 คนตกคนละ 1,278 บาทต่อ 1 คืนเท่านั้นเอง ราคาใกล้ๆ กับโฮสเทลบางที่เลย แถมได้ห้องน้ำส่วนตัวด้วย
การเดินทาง                           โรงแรมอยู่ติดถนนหาง่าย ไปมาค่อนข้างสะดวกลงรถไฟก็นั่งรถเมล์มาลง เดินอีกประมาณ 130 เมตรก็ถึงโรงแรมละ
พนักงาน                 พนักงานที่นี่น่ารัก ให้ความช่วยเหลือดีค่ะ ติดอย่างเดียวตอนเรากำลังปรึกษาว่าจะเอาห้องแบบไหนนี่แหละ จะเร่งไปไหนจ๊ะ
อาหาร                    อาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ แต่ส่วยมากจะทำรสชาติที่อินเดียชอบทาน ถ้าจองคราวหน้าคงเลือกแบบไม่รวมอาหารแล้วไปทานข้างนอกดีกว่าค่ะ
ห้องพัก                   ไม่ได้แคบมากมาย มีทางให้เดินและวางของได้ ห้องสะอาด อุปกรณ์ในห้องน้ำครบไม่ต้องไรมาเลย อ้อ ยกเว้นแชมพูสระผมนะคะ
สถานที่ตั้ง              ไม่ไกลจากโรงแรมมีเซเว่นและร้านอาหารถือว่าสะดวกมากค่ะ

จบรีวิวโรงแรมแล้ว เดี๋ยวจะมารีวิวที่แพลนและที่เที่ยวในแต่ละวันของเราให้นะคะ